“รมช.มนัญญา” ลงพื้นที่จังหวัดนครพนม

เยี่ยมชมความก้าวหน้าการขับเคลื่อนโครงการลูกหลานเกษตรกรกลับบ้านฯ  ชูบทบาทสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ ส่งเสริมอาชีพ เชื่อมโยงตลาด สร้างรายได้สู่ชุมชน

          นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และนายวิศิษฐ์  ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดนครพนม  ติดตามความก้าวหน้าการขับเคลื่อนโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  ที่ต้องการสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่หันกลับมาประกอบอาชีพทำการเกษตร   และกลับสู่ถิ่นฐานบ้านเกิด เพื่ออยู่ใกล้ชิดกับครอบครัวมากยิ่งขึ้น

          ทั้งนี้ ในจังหวัดนครพนม มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการนำลูกหลานเกษตรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร 127 ราย มีสหกรณ์การเกษตรสมัครเข้าร่วมโครงการฯ 9 แห่ง ในอำเภอธาตุพนมมีสมัครเข้าร่วมโครงการฯ 12 ราย การดำเนินโครงการฯ ที่ผ่านมา มีการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างผู้สมัครและสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการฯ โดยการสร้างกลุ่มไลน์  เพื่อการสื่อสาร ประสานงาน และมีการแลกเปลี่ยนให้ความรู้ซึ่งกันและกัน รวมทั้งเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างเครือข่ายและศึกษาดูงานกิจกรรมลูกหลานกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร ระหว่างวันที่ 22-23 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา มีหน่วยงานภาคีเครือข่ายเข้ามาร่วมเป็นวิทยากรให้ความรู้ เช่น เกษตรจังหวัด ประมงจังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด สถานีพัฒนาที่ดิน  และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร จังหวัดนครพนม ร่วมกันจัดอบรมถ่ายทอดความรู้ด้านการเกษตรให้คนรุ่นใหม่ที่สมัครเข้าร่วมโครงการนี้ เพื่อส่งเสริมการประกอบอาชีพทำการเกษตร โดยแบ่งเป็น 5 กิจกรรมหลัก ได้แก่ การเลี้ยงผึ้งแบบธรรมชาติ การเพาะเห็ด การเพาะพันธุ์ไม้ การเลี้ยงจิ้งหรีด และการเลี้ยงกบและเพาะพันธุ์ลูกอ๊อด จากนั้นได้พาไปศึกษาดูงานแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ภายในจังหวัดนครพนม ประกอบด้วย กิจกรรมเกษตรทฤษฎีใหม่ กิจกรรมโคกหนองนาโมเดล การเลี้ยงผึ้งแบบธรรมชาติ และเทคนิคการเพาะพันธุ์ไม้ชนิดต่าง ๆ ทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ได้รับความรู้และประสบการณ์ในการดำเนินกิจกรรมจากผู้ที่ประสบผลสำเร็จ ทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการพัฒนาอาชีพเกษตรกร ส่งผลให้มีความมั่นคงและมีความสุขในการประกอบอาชีพต่อไปด้วย

          โอกาสนี้  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้โอวาทและแนวทางในการดำเนินโครงการฯ และเยี่ยมชมนิทรรศการการดำเนินกิจกรรมของสหกรณ์การเกษตรธาตุพนม จำกัด และสหกรณ์การเกษตรเรณูนคร จำกัด เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ของสหกรณ์ และพบปะเกษตรกร และประชาชนในพื้นที่ โดยมี นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ว่าที่ร้อยตรี ประสิทธิ์ชัย  บุระเนตร สหกรณ์จังหวัดนครพนม หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับ

           “จากการลงพื้นที่วันนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่น่ายินดี และขอชื่นชมความตั้งใจของลูกหลานเกษตรกรที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งเป็นการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีใจรักอาชีพเกษตรกรรมและต้องการกลับคืนสู่ถิ่นฐานบ้านเกิดเพื่อสานต่ออาชีพของครอบครัว และได้มีเวลาอยู่ใกล้ชิดกับครอบครัวมากขึ้น ที่ผ่านมาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่มีบทบาทในการสนับสนุนกิจกรรมของเกษตรกรรุ่นใหม่ทั้งด้านส่งเสริมการผลิต การรวบรวม การแปรรูปและการตลาด เพื่อให้เกษตรกรรุ่นใหม่ได้การประกอบอาชีพทางการเกษตรอย่างมั่นคง เป็นกำลังสำคัญของภาคการเกษตรของประเทศ ขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันขับเคลื่อนให้การดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตรให้เห็นเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นต่อไป” รมช.มนัญญา กล่าว

          ด้าน นายสันติ สุนีย์ อายุ 42 ปี อาศัยอยู่ในอำเภอธาตุพนม และเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการนี้ กล่าวว่า ตนเองมีจุดมุ่งหมายที่ต้องการกลับมาทำการเกษตรที่ภูมิลำเนาเพื่อดูแลบิดามารดาและครอบครัว จบการศึกษาสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เคยทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ระดับ 3 ของกรมทางหลวง และลาออกจากงานมาประกอบอาชีพทางการเกษตร ตนเองมีความชำนาญเรื่องการเลี้ยงกบ การเพาะพันธุ์ลูกอ๊อด มีความต้องการต่อยอดและยกระดับราคาของการเลี้ยงกบและเพาะพันธุ์ลูกอ๊อดของชุมชนให้มีรายได้และมีความเข้มแข็งเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการแปรรูป ซึ่งต้องการความรู้เกี่ยวกับการผลิตและการขอรับรองมาตรฐานสินค้าปลอดภัยและ GAP รวมถึงได้วางแผนจัดตั้งกลุ่มอาชีพผู้ผลิตและกลุ่มแปรรูปในสังกัดสหกรณ์การเกษตรธาตุพนม จำกัด ในเร็ว ๆ นี้ และจะนำระบบสหกรณ์มาใช้ในการดำเนินงาน วางแผนการผลิตร่วมกันระหว่างเกษตรกรผู้เลี้ยงกบ ซึ่งทางสหกรณ์การเกษตรธาตุพนม จำกัด   จะมีส่วนในการสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ และส่งเสริมให้สมาชิกในชุมชนจัดตั้งกลุ่มอาชีพเพื่อสร้างรายได้มั่นคง สามารถพึ่งพาตนเองได้ต่อไป

          ด้านนายทรงวุฒิ พลหาญ อายุ 44 ปี อาศัยอยู่ในอำเภอเรณูนคร ซึ่งสมัครเข้าร่วมโครงการนี้เช่นกัน เรียนจบระดับปวช. เดิมเป็นพนักงานบริษัท แต่ตัดสินใจลาออกและกลับบ้านเพื่อมาดูแลพ่อแม่ที่อายุมากแล้ว และมีความตั้งใจจะ   สานต่ออาชีพการเกษตรจากพ่อแม่ ซึ่งแม่เป็นสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรเรณูนคร จำกัด ปัจจุบันมีที่ดิน 10 ไร่ ทำการเกษตรแบบผสมผสาน ทั้งทำนาปลูกข้าว ปลูกฝักทอง เลี้ยงไก่ เลี้ยงวัวและสุกร นอกจากนี้จะต่อยอดทำอาชีพเสริมด้วยการเลี้ยงจิ้งหรีด เนื่องจากใช้ระยะเวลาเลี้ยงสั้น 45 วัน ใช้พื้นที่และลงทุนน้อยขณะที่ตลาดการบริโภคมีความต้องการสูง ซึ่งราคาขายจิ้งหรีดกิโลกรัมละ 80-100 บาท กำไร 30/กิโลกรัม ซึ่งในอนาคตต้องการจะเชื่อมโยงเครือข่ายกับทางสหกรณ์การเกษตร  เรณูนคร จำกัด เพื่อต่อยอดอาชีพการเกษตรและเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ให้มากขึ้นต่อไป

          โอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ เยี่ยมชมนิทรรศการการดำเนินกิจกรรมของสหกรณ์การเกษตรธาตุพนม จำกัด และสหกรณ์การเกษตรเรณูนคร จำกัด พร้อมชมผลิตภัณฑ์ของสหกรณ์และกลุ่มอาชีพ อาทิ ข้าวสาร เครื่องจักรสาน ผ้าทอพื้นเมือง ของกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองตำบลโคกกินแฮ่ ผลิตภัณฑ์การแปรรูปพริกของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรนางามเหนือ ซึ่งสหกรณ์ทั้ง 2 แห่ง ได้สมัครเข้าร่วมเป็นพี่เลี้ยงให้กับเกษตรกรรุ่นใหม่ของโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร จังหวัดนครพนม โดยได้เข้ามามีบทบาทในการให้ความรู้ หลักการ วิธีการสหกรณ์ และการรวมกลุ่มกันซื้อ – ขาย ส่งเสริม การจัดตั้งกลุ่มอาชีพ สนับสนุนด้านเงินทุนในการประกอบอาชีพ และรวมทั้งเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงเครือข่ายในการหาปัจจัยการผลิตต่าง ๆ และมีความพร้อมที่จะเชื่อมโยงการตลาดให้ลูกหลานเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ อีกด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *