เวลส์ในวันที่กลิ่นควันยาสูบจางหายแต่บุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นปัญหาใหญ่

เวลส์ในวันที่กลิ่นควันยาสูบจางหายแต่บุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นปัญหาใหญ่

เวลส์ประเทศที่เป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร กำลังเผชิญปัญหาใหญ่เมื่อจำนวนผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จนรัฐบาลเวลส์ต้องเริ่มใช้มาตรการทางกฎหมายเข้าควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเยาวชน และให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกแก่ผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่สิ่งทดแทนการใช้บุหรี่มวน 

หน่วยงานสาธารณสุขเวลส์ยอมรับว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่มวน แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนหนุ่มสาว แม้ว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าจะหลีกเลี่ยงการเผาไหม้ที่ก่อให้เกิดทาร์และคาร์บอนมอนอกไซด์ แต่ข้อความ “อันตรายน้อยกว่า” อาจถูกตีความผิดโดยวัยรุ่นว่า “ไม่เป็นอันตราย” ทั้งที่หน่วยงานสาธารณสุขเวลส์เน้นย้ำว่าเยาวชน ไม่ควรใช้บุหรี่ไฟฟ้าเลย โดยระบุว่า หลักฐานเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพจากการใช้อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้ายังมีจำกัดมาก อย่างไรก็ตาม การสูบบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เยาวชนมีความเสี่ยงต่อการติดนิโคติน ซึ่งเป็นสารเสพติดที่ส่งผลกระทบต่อการศึกษา พฤติกรรม และชีวิตประจำวัน

เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดจึงมีแนวคิดว่าต้องปรับเปลี่ยนข้อความเป็น “ผู้สูบบุหรี่ที่เป็นผู้ใหญ่: การใช้บุหรี่ไฟฟ้าอาจช่วยให้คุณเลิกบุหรี่ได้และเป็นอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่ต่อไป” และสื่อสารให้ชัดเจนว่า “สำหรับเยาวชนและผู้ไม่สูบบุหรี่: การใช้บุหรี่ไฟฟ้าไม่ปลอดภัย อาจเป็นอันตรายต่อสมอง ปอด และนำไปสู่การเสพติด แม้ว่าจะเป็นอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่ธรรมดาก็ตาม”

ทั้งรัฐบาลสหราชอาณาจักรและเวลส์ ต่างตระหนักดีว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าสามารถช่วยให้ผู้สูบบุหรี่ผู้ใหญ่เลิกบุหรี่ได้ อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์คริส วิตตี้ อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของสหราชอาณาจักร กล่าวถึงการทำตลาดบุหรี่ไฟฟ้าที่พุ่งเป้าไปยังเด็กและเยาวชนว่า “เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้อย่างยิ่ง” แต่แทนที่จะห้ามบุหรี่ไฟฟ้าโดยสิ้นเชิง เราเลือกที่จะใช้แนวทางที่มีความสมดุล “บุหรี่ไฟฟ้า เมื่อใช้ร่วมกับการสนับสนุนด้านพฤติกรรม จะสามารถช่วยให้ผู้สูบบุหรี่ที่เป็นผู้ใหญ่เลิกบุหรี่ได้ แต่เด็กและผู้ใหญ่ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ก็ไม่ควรใช้บุหรี่ไฟฟ้า” นอกจากนี้สหราชอาณาจักรยังได้จัดสรรเงินทุน 62 ล้านปอนด์สำหรับโครงการวิจัยระยะเวลา 10 ปีเพื่อศึกษาผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวของการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและวัยรุ่น เพื่อให้ได้ผลการวิจัยออกมาเป็นที่แน่ชัดและกำหนดแนวทางที่ชัดเจนยิ่งขึ้นได้

นอกจากนี้รัฐบาลเวลส์ได้ให้การสนับสนุนร่างกฎหมายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบและบุหรี่ไฟฟ้าของสหราชอาณาจักร โดยร่างกฎหมายฉบับนี้เสนอมาตรการหลายประการที่มุ่งลดความน่าดึงดูดใจ การเข้าถึง และการแสดงผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าต่อผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ผ่านมาตรการ เช่น การห้ามโฆษณา กล่าวถึงรสชาติ รูปแบบบรรจุภัณฑ์ และเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติ ที่ดึงดูดเยาวชน สร้างพื้นที่ปลอดบุหรี่ไฟฟ้า เช่นเดียวกับพื้นที่ห้ามสูบบุหรี่ สร้างมาตรฐานทางการค้าขายพร้อมกำหนดบทลงโทษ ออกใบอนุญาตแก่ผู้ขายที่ครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์ยาสูบและบุหรี่ไฟฟ้า จำกัดพื้นที่การประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าทั้งบนโลกออนไลน์ และหน้าร้าน และปรับทันทีหากจำหน่ายให้ผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 18 ปี รวมถึงเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย

สำหรับประเทศไทย มีการถกเถียงเกี่ยวกับนโยบายที่เหมาะสมในการควบคุมผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าในชั้นกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา โดยกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรเสนอให้มีการออกกฎหมายควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อแก้ปัญหาทางสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม ที่สืบเนื่องจากมาตรการการห้ามนำเข้า และห้ามจำหน่าย ที่บังคับใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 ขณะที่กรรมาธิการของวุฒิสภาเสนอให้คงการแบนอย่างเด็ดขาดต่อไป เพื่อประโยชน์ของสาธารณสุขไทย และปกป้องเด็กและเยาวชนเป็นสำคัญ ส่งผลให้เกิดความคำถามในหมู่ผู้ใช้งานว่ามาตรการที่มีปัญหา ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าในวงกว้างถึงราว 1 ล้านคน ยังเหมาะสมหรือไม่กับบริบทในปัจจุบันของประเทศไทย

https://research.senedd.wales/research-articles/one-last-puff-can-wales-go-smoke-free-by-2030
https://media.service.gov.wales/news/welsh-government-to-ban-disposable-vapes-and-back-plans-for-raising-smoking-age#:~:text=datashowsthenumberofchildrenusingvapeshastripledinthepast3years.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *