‘เบรนเวค กรุ๊ป’ ลุยซื้อกิจการเจลาโต้ ‘กิโยนี่’ แบรนด์ดังจากอิตาลี เตรียมขยายเพิ่มอีก 10 สาขา

นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ ประธานกรรมการ เบรนเวค กรุ๊ป เปิดเผยว่า เบรนเวค กรุ๊ป ได้เข้าซื้อกิจการ บริษัท เจลาเตเรีย จำกัด ผู้ประกอบกิจการค้านำเข้า ผลิต และจำหน่ายเจลาโต้ “กิโยนี่” (Ghignoni) ซึ่งเป็นแบรนด์ดังจากประเทศอิตาลี โดยกลุ่มเบรนเวคเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่รวม 80% ของบริษัท เจลาเตเรีย จำกัด ส่วนผู้ถือหุ้นกลุ่มเดิมยังเหลืออยู่ 20% ซึ่งปัจจุบันร้านเจลาโต้ “กิโยนี่” มี 3 สาขา คือ สาขาสีลม ใกล้โรงแรมนารายณ์, สาขา ธนิยะพลาซ่า ชั้น G และสาขา ลิโด้ คอนเน็คท์ โดยในปีนี้มีแผนที่จะขยาย“กิโยนี่” เพิ่มอีก10 สาขา ไม่รวมที่จะมีขายในเบรนเวค ทุกสาขา และการออกงานในลักษณะ Pop Up ตามห้างต่างๆ รวมไปถึงการขายผ่านช่องทางออนไลน์ และเดลิเวอรี่”

“การเข้าซื้อกิจการร้านเจลาโต้ “กิโยนี่” ในครั้งนี้ เพราะมองเห็นโอกาสของธุรกิจไอศครีมในประเทศไทยที่มีมูลค่ากว่า 13,000 ล้านบาท และเติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี อีกทั้งไทยเป็นเมืองที่มีอากาศร้อน จึงสามารถขายไอศครีมได้ตลอดทั้งปี ซึ่งจุดเด่นของแบรนด์ “กิโยนี่” เป็นเจลาโต้โฮมเมดเพื่อสุขภาพ ที่เลือกสรรเฉพาะวัตถุดิบจากธรรมชาติ ที่มีคุณภาพดี ปราศจากสารแต่งสีแต่งกลิ่นใดๆ เพื่อคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของ Italian Gelato อย่างแท้จริง จึงตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคที่รักสุขภาพได้เป็นอย่างดี โดยเจลาโต้ “กิโยนี่” มีทั้งหมด 29 รสชาติ แบ่งเป็นประเภท เจลาโต้ (Gelato) ซึ่งมีลักษณะเนื้อเนียนละเอียด แบบพรีเมี่ยม 7 รสชาติ, เดอะ คลาสสิค 13 รสชาติ และเชอร์เบท (Sherbet) ที่ไม่มีส่วนผสมของนม ครีม เต็มที่กับรสชาติของผลไม้แท้ๆ 9 รสชาติ

ทั้งนี้ “กิโยนี่” เป็นร้านเจลาโต้สัญชาติอิตาลี ตั้งอยู่ ณ แคว้น ทัสคานี ทางตอนกลางของอิตาลี ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1981 โดย Palmiro Bruschi ซึ่งเป็นอาจารย์สอนทำเจลาโต้ชาวอิตาเลี่ยนชื่อดัง และยังเป็นแชมป์อันดับหนึ่งของไอศครีมอิตาลีเจลาโต้ ในปี ค.ศ.1994 มีการขยายสาขาไปทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วย โดยเจลาโต้ของแบรนด์กิโยนี่เป็นเจลาโต้สดที่ต้องผลิตกันทุกวัน มีวิธีการทำแบบ Artisan Gelato หรือวิธีการเเบบอิตาเลี่ยนดั้งเดิมที่มองการทำเจลาโต้เป็นสเมือนงานศิลปะแขนงหนึ่ง

อนึ่ง เบรนเวค กรุ๊ป คือ ผู้ประกอบธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ “เบรนเวค คาเฟ่” (Brainwake Cafe) ปัจจุบันมี 8 สาขา ที่เป็นร้านขนาดใหญ่ที่มีอาหารและเครื่องดื่ม คือ สาขาสุขุมวิท 33, สาขาทองหล่อ, สาขามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, สาขาจี ทาวเวอร์, สาขามติชนอคาเดมี (สาขานี้เป็นครัวกลางที่ผลิตอาหารเพื่อส่งไปที่สาขาอื่น), สาขาสัมมากร, สาขาโรงแรมชามา ซอยนานา และ สาขาบางซื่อ จังชั่น นอกจากนี้ยังได้ซัพพลายเบเกอรี่ให้ร้านสะดวกซื้อ ลอว์สัน 108 (Lawson 108) อีก 10 สาขา โดยก่อนหน้านี้กลุ่มทุนใหญ่ ได้แก่ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) และบริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) ได้เข้าถือหุ้นใน “เบรนเวค กรุ๊ป” มีการเพิ่มทุนเป็น 150 ล้านบาท มีสัดส่วนการถือหุ้น คือ กลุ่มสัมมากร 19% กลุ่มสหพัฒน์ฯ 13% ซึ่งการเข้ามาของกลุ่มทุนใหญ่ในครั้งนี้ เนื่องจากเห็นช่องทางการลงทุนในแบรนด์ร้านอาหารที่มีศักยภาพที่จะเติบโต โดยที่กลุ่มสัมมากรซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทำให้เรามีช่องทางในการหาทำเลที่เหมาะสมเพื่อขยายสาขาเพิ่ม พร้อมนำ “เบรนเวค คาเฟ่” ไปเปิดในคอมมูนิตี้มอลล์ “สัมมากร เพลส” รวมถึงเพิ่มปริมาณการซัพพลายเบเกอรี่ให้ร้าน ลอว์สัน 108 ที่บริหารงานโดยกลุ่มสหพัฒน์ อีกด้วย

ทั้งนี้ “เบรนเวค กรุ๊ป” มีแผนที่จะก้าวไปสู่การเป็นผู้ประกอบการธุรกิจอาหารแบบครบวงจร เพื่อก้าวไปสู่การเป็นผู้ประกอบการธุรกิจอาหารแบบครบวงจรจากต้นน้ำไปยังปลายน้ำ บริษัทมุ่งตอกย้ำการ Synergy ร่วมผนึกความแข็งแกร่งระหว่างกลุ่มธุรกิจสร้างการเติบโตร่วมกัน


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *