“ศุภมาส” รัฐมนตรีกระทรวง อว. เป็นประธานในพิธีนำเข้าสู่งาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568 (Thailand Research Expo 2025)” ชูวิสัยทัศน์ “Research for All” พลิกโฉมอนาคตไทยด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

“ศุภมาส” รัฐมนตรีกระทรวง อว. เป็นประธานในพิธีนำเข้าสู่งาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568 (Thailand Research Expo 2025)” ชูวิสัยทัศน์ “Research for All” พลิกโฉมอนาคตไทยด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานในพิธีนำเข้าสู่งาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568 (Thailand Research Expo 2025)” ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 20 ณ World Ballroom ชั้น 23 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ โดยเน้นย้ำถึงพลังของระบบวิจัยไทยที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมอย่างทั่วถึง เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มได้เข้าถึงความรู้และโอกาสจากงานวิจัยอย่างเท่าเทียม

ในโอกาสนี้ นางสาวศุภมาสได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “Research for All: พลิกโฉมอนาคตไทยด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม” ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดหลักของงานที่มุ่งสร้างระบบวิจัยและนวัตกรรมเพื่อประชาชนทุกคนรัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. ได้กล่าวรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรม
ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร “พระบิดาแห่งการวิจัยไทย” ผู้ทรงริเริ่มโครงการกว่า 3,000 โครงการ อาทิ ฝนหลวงและกังหันน้ำชัยพัฒนา ซึ่งเป็นต้นแบบของแนวคิด “วิจัยเพื่อทุกคน” ที่กระทรวง อว. ยึดถือและขับเคลื่อน

นอกจากนี้ ยังได้ถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 70 พรรษา ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผู้ทรงเป็น “IT Princess” และเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการพัฒนานโยบายด้านนวัตกรรมของประเทศที่มุ่งเน้นการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม

นางสาวศุภมาสยังได้กล่าวถึงนโยบายสำคัญในการขับเคลื่อนกระทรวง อว. ตลอด 1 ปี 8 เดือนที่ผ่านมา ภายใต้วิสัยทัศน์ “เรียนดี มีความสุข มีรายได้ เน้นวิจัย สร้างนวัตกรรมดี ตรงความต้องการ” โดยมุ่งเน้นการพัฒนาและปฏิรูประบบอุดมศึกษา ตลอดจนงานวิจัยและนวัตกรรมที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและเศรษฐกิจได้อย่างเป็นรูปธรรมในส่วนของการปฏิรูปการอุดมศึกษา กระทรวง อว. ได้ผลักดันนโยบาย “2 ลด 2 เพิ่ม” เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการศึกษา พร้อมเพิ่มทักษะที่จำเป็นในโลกอนาคตและเพิ่มโอกาสในการมีรายได้และอาชีพที่มั่นคง อาทิ Free TCAS/TGAT, โครงการเรียนดี มีรายได้ (Coop+), National Credit Bank, Online Learning Platform, โครงการทุนพิเศษสำหรับกลุ่มเปราะบางและด้อยโอกาส และเสริมทักษะเพื่ออนาคต เช่น Higher Education Sandbox, Skill Transcript/Skill Mapping, Entrepreneurship Education, Reskill/Upskill/New Skill และ STEM Plus
รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. ยังได้เน้นย้ำถึงโครงการเรือธงของกระทรวงฯ ได้แก่ “อว. for AI” ที่มุ่งพัฒนา AI University เพื่อเตรียมสร้างบุคลากร AI 50,000 คนใน 5 ปี ซึ่งป็นฐานสำคัญในการผลักดันไทยเป็นผู้นำ AI

ในอาเซียน, “อว. for EV” มีเป้าหมายให้ไทยเป็น EV Hub อันดับ 10 ของโลกในการผลิตยานยนค์ปลอดมลพิษภายในปี 2030 ด้วยการพัฒนากำลังคน 150,000 คนใน 5 ปี และ “อว. for Semiconductor” ที่มุ่งผลิตบุคลากรด้านเซมิคอนดักเตอร์ 80,000 คนใน 5 ปี

นอกจากนี้ กระทรวง อว. กำลังผลักดันการจัดตั้งแพลตฟอร์ม “Skills Future Thailand” โดยมีต้นแบบจาก SkillsFuture Singapore ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในการพัฒนาบุคลากรด้วยการมอบคูปอง Up-skill/Re-skill ให้แก่ประชาชนในประเทศไทยได้เริ่มวางรากฐานผ่านโครงการ Skill Mapping และ Skill Transcript ใน 6 มหาวิทยาลัยนำร่อง และได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีให้ผลักดัน 3 มาตรการสำคัญ เพื่อให้ทุกคนมี Skill Transcript สามารถนำไปใช้ Up-skill/Re-skill ได้จริง และภาครัฐและเอกชนใช้เป็นเครื่องมือวางแผนผลิตบัณฑิต

นางสาวศุภมาสยังได้กล่าวถึง “พระราชบัญญัติกองทุนเพื่อพัฒนาการอุดมศึกษา” ได้ผ่าน
ความเห็นชอบจากสภาแล้ว ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสทางการศึกษาให้ทุกคนอย่างเท่าเทียม ตลอดปีที่ผ่านมา กระทรวง อว. ได้จัดกิจกรรมสำคัญอย่างต่อเนื่อง อาทิ “อว.แฟร์: SCI POWER FOR FUTURE THAILAND”,
One Stop Open House, และ “อว. Job Fair” และในอนาคต กระทรวง อว. จะขับเคลื่อนนโยบายอีก 9 เรื่อง อาทิ การเพิ่มประสิทธิภาพกำลังคนตามความต้องการของอุตสาหกรรม การเพิ่มประสิทธิภาพระบบการพิจารณาตำแหน่งทางวิชาการ การสนับสนุนโรงเรียนสาธิตนานาชาติ การผลักดันไทยให้เป็น Education Hub, การผลักดัน อว. เป็นกระทรวงเศรษฐกิจ การนำ ววน. ไปช่วยแก้ปัญหาสำคัญของประเทศ การนำ Science Park ไปสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่น การสนับสนุน Frontier Technology และการปฏิรูประบบ ววน. อย่างต่อเนื่อง

ในตอนท้าย นางสาวศุภมาส อิศรภักดี ได้กล่าวเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของกระทรวง อว. ที่จะสร้างระบบนิเวศที่ส่งเสริมให้การวิจัย วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม เพื่อพลิกโฉมประเทศไทยให้สามารถแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างเข้มแข็ง ยั่งยืน และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง พร้อมเชื่อมั่นว่าด้วยพลังร่วมของทุกภาคส่วนจะสามารถสร้าง “ประเทศไทยที่เข้มแข็งด้วยวิจัย และเท่าเทียมด้วยโอกาส” ได้อย่างเป็นรูปธรรม

ในโอกาสเดียวกันนี้ ได้มีพิธีมอบโล่รางวัลและประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติแก่หน่วยงานที่มีผลงานโดดเด่นด้านการส่งเสริมมาตรฐานจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ และการจัดการข้อมูลวิจัย ตามมาตรฐานสากล ดังนี้

  1. รางวัลรับรองคุณภาพจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ (NECAST)
    เพื่อยกย่องหน่วยงานที่มีระบบการกำกับดูแลจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์อย่างมีคุณภาพและต่อเนื่อง
    ระดับ 2 (โล่รางวัลและประกาศนียบัตร) จำนวน 3 หน่วยงาน ได้แก่
  • วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จักรีรัช
  • วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครลำปาง
  • มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก

ระดับ 3 (โล่รางวัลและประกาศนียบัตร) จำนวน 4 หน่วยงาน ได้แก่

  • มหาวิทยาลัยรังสิต
  • โรงพยาบาลศรีสะเกษ
  • มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
  • สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

ระดับ 3 (ได้รับประกาศนียบัตร) จำนวน 7 หน่วยงาน ได้แก่

  • โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์
  • คณะกรรมการกลางพิจารณาจริยธรรมการวิจัยในคน
  • โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนล
  • กลุ่มสหสถาบัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ชุดที่ 1)
  • โรงพยาบาลชลบุรี
  • คณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ จังหวัดจันทบุรี / เขตสุขภาพที่ 6
  • คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
  1. รางวัลมาตรฐานการจัดการข้อมูลวิจัย (CoreTrustSeal)
    ซึ่งเป็นรางวัลระดับนานาชาติที่รับรองคุณภาพของคลังข้อมูลวิจัยที่มีการบริหารจัดการตามหลักการเปิดเผย โปร่งใส และยั่งยืน โดยมีหน่วยงานที่ได้รับประกาศนียบัตร จำนวน 4 แห่ง ได้แก่
  • PSU Knowledge Bank จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดย รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุนทร วงษ์ศิริ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม
  • NIDA Wisdom Repository จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ปราโมทย์ กั่วเจริญ ผู้อำนวยการสำนักบรรณสารการพัฒนา
  • Thailand Agricultural Research Repository จากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) โดย นายกิตติ ทั้วสุภาพ นักวิเคราะห์สารสนเทศอาวุโส 2
  • Digital Research Information Center (DRIC) จากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ โดย นางมาริยาท ตั้งมิตรเจริญ ผู้อำนวยการกองระบบและบริหารข้อมูลเชิงยุทธศาสตร์

งาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568 (Thailand Research Expo 2025)” นี้ จัดขึ้นโดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศ ในระหว่างวันที่ 16 – 20 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *