Save BCC แต่งดำร้องตรวจสอบใหม่ กรณีผอ.กับผจก.รร.ถูกสั่งย้ายไม่เป็นธรรม


จากเหตุการณ์ที่สั่งเด้งผจก.และผอ.โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน   ทำให้กลุ่มศิษย์เก่า คณะครู ผู้ปกครองและศิษย์ปัจจุบัน สุดทน !! ต่างรวมพลังกันแต่งชุดดำ เพื่อออกมาแสดงการประท้วงบอร์ดใหม่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน พร้อมกับร้องเรียนให้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ที่เป็นกลางในการตรวจสอบนายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ผู้อำนวยการ และนายวัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี ผู้จัดการโรงเรียน โดยไม่เอาผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งนี้เพื่อความเป็นธรรม
27 ส.ค.2562  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีดังกล่าวทำให้กลุ่ม Save BCC ซึ่งประกอบไปด้วยศิษย์เก่า คณะครูผู้ปกครองและศิษย์ปัจจุบัน ของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ได้พร้อมใจกันแต่งชุดดำมารวมตัวกันที่หน้าโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนมากกว่า 500 คน ทำให้ต้องปิดถนนประมวลจากปากทางเข้าถนนสาธรจนถึงหน้าโรงเรียน ทั้งนี้เพื่อต้องการเรียกร้องให้บอร์ดสภาคริสตจักรในประเทศไทย  ซึ่งเป็นคณะผู้บริหารโรงเรียน ให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่ดำเนินการไปแล้ว  
ทั้งนี้เพราะที่ผ่านมาได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนที่ไม่เป็นกลาง โดยได้มีการออกคำสั่งปลดนายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ผู้อำนวยการ และนายวัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี ผู้จัดการโรงเรียน และล่าสุดได้มีการสั่งให้ย้ายให้ไปปฏิบัติงานประจำสำนักงานพันธกิจศึกษา จังหวัดเชียงใหม่เป็นการชั่วคราว โดยทั้ง 2 คนได้ถูกกล่าวหาว่าเกิดจากการบริหารงานใน 6 โครงการที่ดำเนินการผิดขั้นตอน แต่ไม่ได้ชี้แจ้งรายละเอียดของความผิดแต่อย่างใด 
ดังนั้นทางกลุ่ม  Save BCC จึงมองเห็นถึงความไม่เป็นธรรม  เพราะคณะกรรมการผู้ดำเนินการสอบสวน ประกอบไปด้วยบุคคลผู้ตั้งข้อกล่าวหาด้วยตนเอง และคณะบุคคลผู้ที่มีส่วนได้เสียในประเด็นกล่าวหาโดยตรง และได้มีคำสั่งพักงานหรือโยกย้ายงาน  ซึ่งอาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย และยังมีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารโรงเรียนเป็นกลุ่มของตนเอง ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะเห็นแก่ผลประโยชน์ของนักเรียน ครู และผู้ปกครอง ไม่ว่าจะเป็นการอนุมัติวงเงินเกินอำนาจผิดขั้นตอนในหลายโครงการ เช่น การขออนุมัติย้อนหลังจัดซื้อเครื่องปรับอากาศสำหรับอาคารใหญ่ รวมทั้งการอนุมัติจัดซื้อจัดจ้างในอีกหลายโครงการที่ผิดปกติ ซึ่งการดำเนินการหลายเรื่องต่างส่งผลกระทบต่อนักเรียน และบุคลากรของโรงเรียน
นอกจากนี้แล้วผู้ที่มาดำรงตำแหน่งรักษาการทั้งสองตำแหน่ง  ซึ่งได้รับแต่งตั้งขึ้นมาแทนผู้อำนวยการและผู้จัดการโรงเรียนนั้น ยังเป็นบุคคลคนเดียวกันนั้นก็คือ นายบรรจง  ชมพูวงศ์ ที่เข้ามาบริหารงานควบทั้งสองตำแหน่ง โดยที่ไม่ได้รับการยอมรับจากคณะครู และนักเรียน แม้จะได้มีการเจรจาและยื่นเรื่องอุทธรณ์ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแล้วก็ตาม แต่ไม่เป็นผล ดังนั้นทางคณะครู ผู้ปกครอง และศิษย์เก่า ต่างเล็งเห็นถึงความไม่ปกติอาจนำมาซึ่งผลกระทบต่อนักเรียนและครูของโรงเรียน ทั้งในด้านการให้การศึกษาของนักเรียนและการพัฒนาการศึกษาของโรงเรียนในปัจจุบันและต่อไปในอนาคต   
ในเวลาต่อมาตัวแทนขององค์กร Save BCC ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนให้กับนายบรรจง ชมภูวงศ์  ซึ่งรักษาการผู้อำนวยการและรักษาการผู้จัดการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ซึ่งระหว่างนั้นนายบรรจงได้กล่าวถ้อยคำกับกลุ่ม Save BCC แต่กับถูกแสดงความไม่พอใจมีเสียงโห่ร้องจากผู้ที่มารวมตัวกัน จึงทำให้ต้องรีบกลับเข้าไปภายในโรงเรียนทันที และในขณะเดียวกันได้มีการอ่านแถลงการณ์เรียกร้อง 4 ข้อด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการให้ทางโรงเรียนดำเนินการตามพันธกิจของโรงเรียน ซึ่งตามโครงสร้างคณะกรรมการบริหารจะต้องมีความเป็นอิสระในการบริหารและถ่วงดุลโดยผู้ปกครอง ครู โดยโรงเรียนไม่ควรถูกแทรกแซงจากองค์กรภายนอก
ส่วนกรณีการสอบสวนข้อเท็จจริงของนายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียน และนายวัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี ผู้จัดการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยนั้น ได้เรียกร้องให้ดำเนินไปโดยหลักธรรมาภิบาลและกระบวนการสอบสวนที่เป็นธรรม มีการแจ้งข้อกล่าวหาที่พอเพียงและดำเนินการโดยบุคคลที่เป็นกลาง และเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย เข้ามามีส่วนร่วมสังเกตการณ์ด้วย อกจากนี้ ทางกลุ่มยังเรียกร้องให้หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจกำกับดูแล มาเป็นองค์กรกลางในการหาข้อยุติของกรณีปัญหา ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการตรวจสอบตามหลักธรรมาภิบาลและประโยชน์ของความเป็นธรรม และปิดท้ายด้วยการขอให้มีการทบทวนคณะกรรมการบริหารโรงเรียนและผู้เข้ามาดำรงตำแหน่งรักษาการ  ที่เวลานี้ไม่เป็นที่ยอมรับของคณะครูและนักเรียน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการบริหารงานและดำเนินงานของโรงเรียนต่อไป
และระหว่างที่มีการรวมตัวกันของกลุ่มศิษย์เก่า  คณะครู ผู้ปกครอง ที่ต่างยืนอยู่หน้าโรงเรียน และศิษย์ปัจจุบัน ที่อยู่ภายในโรงเรียน ซึ่งทุกคนล้วนแต่ใส่ชุดดำและได้เข้ามาทักทายกันอย่างเป็นกันเอง และยังได้ร่วมใจกันร้องเพลงเชียร์ของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยอยู่หลายครั้ง  ซึ่งนั้นทำให้เห็นถึงจุดยืนที่มีความมุ่งมั่นในการมารวมตัวร้องเรียนครั้งนี้ และใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงทางกลุ่มดังกล่าวก็ได้แยกย้ายกันไป      
และก่อนหน้านี้ทางกลุ่ม Save BCC ได้ออกมาเปิดเผยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ถึงเหตุผลในการออกมารวมตัวเคลื่อนไหวในครั้งนี้ เพื่อให้สังคมเข้าใจถึงปัญหาของสถาบัน โดยขอให้มีการเผยแพร่ผลการสอบสวนภายในกรอบระยะเวลา 30 วัน ซึ่งจะครบในวันที่ 7 ก.ย.นี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *